การมีเส้นผมที่ดกดำและเป็นเงางามเป็นเครื่องช่วยเสริมบุคลิกภาพ ช่วยให้คนๆนั้นดูดีและดูอ่อนกว่าวัยได้ คนจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายจึงให้ความสำคัญกับการดูแลเส้นผมของตนเอง
ปัญหาเรื่องเส้นผมเป็นปัญหาสากล กล่าวคือ เมื่ออายุเริ่มมากขึ้นทุกคนมักจะมีปัญหาเส้นผมเหมือนหรือแตกต่างกันออกไป บางท่านผมร่วงผมบาง บางท่านผมหงอก บางท่านผมแห้ง บางท่านผมเสีย เป็นต้น ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าไม่มีใครอยากมีปัญหาเกียวกับเส้นผมอย่างแน่นอน ทุกคนอยากมีผมสวยเพื่อให้ตัวเองเป็นคนที่ดูดีทั้งนั้น
งาดำเป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผมได้ดีมาก เพราะมีสรรพคุณทางยาในการบำรุงอวัยวะสำคัญในร่างกายที่เกียวกับเส้นผมโดยตรง แพทย์ทางเลือกจึงมีการนำงาดำไปใช้แก้ปัญหาเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลดีที่ได้จากการใช้งาดำในการบำรุงผมมีการบันทึกทั้งในตำราแพทย์แผนจีนและตำราแพทย์แผนอินเดีย นั่นแสดงให้เห็นถึงการนำงาดำไปใช้บำรุงเส้นผมที่มีมานานเป็นพันๆปีมาแล้ว
ในบทความนี้ท่านจะได้ทราบถึงวิธีการดูแลสุขภาพเส้นผมด้วยงาดำ ไม่ว่าปัญหาเส้นผมของท่านคืออะไร ? หากท่านเรียนรู้และทำความเข้าใจข้อมูลในบทความนี้แล้ว ท่านสามารถแก้ปัญหาเส้นผมของตนเองได้ เพื่อบุคลิกภาพที่ดีและเสริมความมั่นใจในตนเอง
อวัยวะที่สำคัญต่อเส้นผมคือไต
หลายคนรู้จักอวัยวะที่มีชื่อว่าไต เป็นอย่างดีแล้ว ไตเป็นอวัยวะรูปถั่ว มีทั้งหมด 2 ข้างบริเวณเอว ทำหน้าที่ในการกรองของเสียจากเลือดแล้วกำจัดออกมาในรูปของปัสสาวะ ดูแลสมดุลกรดด่างและสมดุลน้ำของร่างกาย รวมถึงการผลิตฮอร์โมนสำคัญๆเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ
ในมุมมองของแพทย์แผนจีนไตเป็นอวัยวะธาตุน้ำ มีหน้าที่สำคัญในการเก็บกักสารจิง (Jing) ซึ่งเป็นสารแห่งชีวิตหรือสารแห่งความหนุ่มสาว สารจิงเป็นสารที่เราได้มาแต่กำเนิดและมีปริมาณที่จำกัดส่วนหนึ่ง และร่างกายสามารถสร้างสารนี้ได้จากการดูแลสุขภาพให้ดีอีกส่วนหนึ่ง ผู้ที่มีสารนี้ในร่างกายจำนวนมากจะมีสุขภาพที่แข็งแรง ดูอ่อนเยาว์ ผิวพรรณสดใส มีกำลังวังชา ในทางกลับกันผู้ที่มีสารนี้ในร่างกายน้อยจะสุขภาพไม่ดี ป่วยง่าย ผิวพรรณเหี่ยวย่น เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ผมร่วง ผมหงอก กระดูกพรุน ข้อเสื่อม ฟันผุหรือพันหลุดได้ง่าย
นอกจากนี้ไตที่เป็นอวัยวะธาตุน้ำ ยังมีหน้าที่ในการสร้างและดูแลอวัยวะธาตุน้ำส่วนอื่น เช่น กระดูก ฟันและเส้นผม! ดังนั้น การที่เราจะบำรุงรักษาหรือดูแลสุขภาพของเส้นผมเราให้ดี เรามีความจำเป็นต้องดูแลสุขภาพของไตให้ดีด้วย
งาดำเป็นอาหารบำรุงไตชั้นดี

ตามหลักการแพทย์แผนจีน การบำรุงสุขภาพของไตมีอยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการดูแลร่างกายให้อบอุ่น การดูแลสุขภาพจิตให้ดี ไม่เครียด การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การใช้อาหารและการใช้สมุนไพร โดยการบำรุงไตด้วยอาหารเป็นวิธีที่แพทย์จีนสอนให้ทำควบคู่กับการดูแลไตด้วยการปฏิบัติอื่นๆ หากไม่ได้ผลมากพอจึงค่อยหันมาใช้สมุนไพรบำรุงไตเฉพาะทางจริงๆจะเป็นลำดับที่ถูกต้องและถนอมร่างกายมากกว่า
อาหารที่ใช้บำรุงไตได้ดีมีอยู่หลายชนิด แต่ที่เป็นสุดยอด ถูกกล่าวถึงและนำมาใช้ในการบำรุงไตมากที่สุดชนิดหนึ่ง คือ “งาดำ” การบริโภคงาดำเป็นการบำรุงสุขภาพไต (จริงๆแล้วบำรุงตับด้วยแต่ผู้เขียนจะไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้) โดยการเสริมหยินและเสริมเลือดให้กับร่างกายและไต ดังนั้น ไตจะมีความแข็งแรงและมีสุขภาพดี หากมีการบำรุงด้วยการบริโภคงาดำเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม
เนื่องจากไตเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการสร้างและดูแลเส้นผม หากเราต้องการให้ผมสวย ดกดำ เป็นเงางาม การดูแลไตให้แข็งแรงด้วยการบริโภคงาดำจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะงาดำเป็นธัญพืชที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพงและนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย
ไตแข็งแรงเส้นผมแข็งแรง ไตอ่อนแอเส้นผมอ่อนแอ
การที่เรามีปัญหาเส้นผม สาเหตุหลักเกิดจากไตของเราไม่แข็งแรง (หรืออาจจะเรียกว่า “ไตเสื่อม” ก็ได้ แต่ไม่ได้หมายถึง “ไตวาย” ที่ใช้ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน) ไม่ว่าจะเป็นผมร่วง ผมหงอก ผมขาว ผมแห้ง ผมเสียและอื่นๆ ซึ่งการดูแลรักษาไตที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง คือ การบริโภคงาดำและผลิตภัณฑ์งาดำอยู่เป็นประจำครับ
ถ้าไตเราแข็งแรงแล้วเส้นผมจะแข็งแรงตามไปด้วย ผมจะดกดำ เป็นเงางาม ไม่หงอกและไม่แห้งเสีย ในทางการแพทย์แผนจีนคนที่อายุน้อย ผมจะดกดำเป็นเงางามเพราะไตยังแข็งแรง (อันนี้ผู้เขียนพูดถึงกรณีที่เราไม่ได้ไปทำอะไรกับผมนะครับ เช่น ทำสี ย้อมผม ยืดผม เพราะบางท่านไม่ได้มีปัญหาเรื่องไต แต่ทำผมเยอะไปสุขภาพผมก็ไม่ดีได้เช่นกัน) ส่วนคนที่อายุมากแล้วหรือเข้าสู่วัยชราผมจะหลุดร่วงง่าย บางคนศีรษะล้าน ผมหงอกหรือผมขาว ซึ่งเป็นไปตามวัยครับ
อย่างไรก็ตาม ก็มีอยู่หลายกรณีที่คนอายุน้อยเริ่มมีผมหงอกหรือมีผมขาวแล้ว ซึ่งตามความเข้าใจของผู้เขียน ผมหงอกหรือผมขาวก่อนวัยอันควรเกิดจากความเครียด บางท่านเครียดเรื่องงาน บางท่านเครียดเรื่องความสัมพันธ์ บางท่านเครียดเรื่องเงิน ถ้าเครียดมากอย่างต่อเนื่อง ความเครียดจะทำให้ไตเสื่อมในระยะยาว เส้นผมจะเริ่มหงอกหรือขาวก่อนวัยอันควรได้ครับ
สำหรับผู้สูงอายุการมีผมหงอกหรือผมร่วงบ้างเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าเราต้องการชะลอวัยหรืออยากให้เรามีผมหงอกและผมร่วงน้อยลง การบริโภคงาดำและผลิตภัณฑ์งาดำ ก็มีส่วนช่วยแก้ปัญหานี้ได้ค่อนข้างดีครับ
การบริโภคงาดำให้ได้ประโยชน์สูงสุด
การใช้งาดำในการแก้ปัญหาเส้นผม เรานิยมใช้งาดำอยู่สองวิธี คือ
ใช้กิน
เราสามารถเลือกรับประทานงาดำได้ในรูปแบบของเมล็ดงาดำหรือน้ำมันงาดำ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละท่านครับ การบริโภคงาดำทั้งเมล็ดให้ได้ปริมาณเพียงต่อความต้องการของร่างกายเป็นเรื่องที่ทำค่อนข้างยาก เพราะปริมาณที่แนะนำให้ทานเพื่อบำรุงเส้นผม ผู้เขียนแนะนำให้ทานที่ 40 กรัม และต้องทานเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารสำคัญในงาดำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้เขียนได้ทดลองทำด้วยตนเองแล้วพบว่าค่อนข้างยากลำบากที่จะทานให้ได้ตามนั้น
ในส่วนของการกินน้ำมันงาดำ ควรกินในรูปน้ำมันสกัดเย็น เพราะน้ำมันงาดำเป็นน้ำมันที่สูญเสียหรือถูกลดทอนคุณภาพได้ง่าย หากสกัดด้วยวิธีการที่ทำให้เกิดความร้อนและสัมผัสกับอากาศ ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพของน้ำมันงาดำลดลง ทำให้สารสำคัญที่มีประโยชน์และช่วยบำรุงสุขภาพลดน้อยลงตามไปด้วย
น้ำมันงาดำสกัดเย็นในท้องตลาดจะมีอยู่สองรูปแบบ คือ
- น้ำมันงาดำสกัดเย็นบรรจุแคปซูลเจล เหมาะสำหรับการกินมากที่สุด เพราะน้ำมันถูกปกป้องอย่างดีในแคปซูลเจล ไม่สัมผัสกับอากาศ จึงทำให้คุณภาพของน้ำมันงาดำดีอยู่ได้นาน
- น้ำมันงาดำบรรจุขวด เหมาะสำหรับการกินสด กล่าวคือ เทใส่ช้อนแล้วกินหรือหรือนำไปทำอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน เช่น ใช้เป็นส่วนประกอบของน้ำสลัด เป็นต้น น้ำมันงาดำไม่เหมาะแก่การนำไปประกอบอาหารผ่านความร้อน เช่น ใช้ผัดหรือทอด เพราะความร้อนที่ส่งผ่านเข้าสู่น้ำมันจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็งหรืออนุมูลอิสระได้ง่าย ซึ่งหากเรากินเข้าไปอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคแห่งความเสื่อมชนิดต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดัน กระดูกพรุน ข้อเสื่อม เป็นต้น
การกินน้ำมันงาเพื่อบำรุงผม ผู้เขียนแนะนำให้ทานน้ำมันงาดำสกัดเย็นชนิดแคปซูลขนาด 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2-4 แคปซูล ก็จะมั่นใจได้ว่าได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่เพียงต่อการบำรุงสุขภาพเส้นผมครับ
ใช้ทาภายนอก
คนสมัยโบราณรู้จักการใช้น้ำมันงาดำ โดยการใช้ทาภายนอกมาเป็นเวลาหลายพันปี ดังตัวอย่างต่อไปนี้
- แพทย์แผนจีนจะแนะนำให้ใช้น้ำมันงานวดบริเวณที่เกิดกระดูกร้าว แตกหรือหัก จะช่วยให้กระดูกที่เกิดการบาดเจ็บสมานตัวได้เร็วขึ้น
- แพทย์แผนอินเดียแนะนำให้ใช้น้ำมันงาชะโลมทั่วร่างกายตั้งแต่ปลายผมจรดปลายเท้าเป็นประจำ จะช่วยให้ผมดกดำเป็นเงางาม ผิวพรรณชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก รวมทั้งช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นด้วย
ดังนั้น หากเราต้องการดูแลสุขภาพเส้นผม เราเพียงนำน้ำมันงามานวดผมและหนังศีรษะเป็นประจำ ก็จะช่วยให้เส้นผมของเรามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ ตามหลักการแพทย์แผนโบราณ ที่ผ่านการพิสูจน์จากบรรพบุรุษและมีบันทึกที่ชัดเจนในตำราของแพทย์แต่ละแผน
เราใช้งาดำแก้ปัญหาเส้นผมได้อย่างไรบ้าง ?
ตามตำราแพทย์แผนจีนและแผนอินเดีย(อายุรเวท) เราสามารถใช้งาดำแก้ปัญหาเส้นผมได้ดังต่อไปนี้
- บำรุงไตให้แข็งแรง ไตแข็งแรงเส้นผมแข็งแรงด้วย
- แก้ผมเสีย
- เร่งผมยาว
- แก้เหา
- กำจัดรังแค
- ให้ความชุ่มชื่นกับหนังศีรษะ แก้หนังศีรษะแห้ง
- ป้องกันผมจากแสงแดด
- เพิ่มการไหลเวียนเลือดของหนังศีรษะ
- บำรุงรากผม
- ช่วยให้ผมเงางามสะท้อนแสง
- ใช้เป็นน้ำยาหมักผม
- แก้ผมเสีย
- ลดผมร่วง
- ลดผมหงอก
งานวิจัยงาดำที่เกี่ยวข้อง
หลายท่านอาจมีคำถามว่า ทำไมงาดำถึงมีสรรพคุณในการบำรุงและแก้ปัญหาเส้นผม ? ในงาดำมีอะไร ? มีงานวิจัยที่ได้ทำการตรวจสอบสารพฤกษเคมีในงาดำเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการเพิ่มมูลค่าของงาดำในด้านการตลาด
ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่า งาเป็นพืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก สารพฤษเคมีในงาดำที่สำคัญได้แก่ ลิกแนน(Lignans) โทโคฟีรอลหรือวิตามินอี (Tocopherols) และไฟโตสเตอรอล(Phytosterols) สารพฤกษเคมีดังกล่าวเป็นสารสำคัญที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีมาก อย่างที่เราๆทราบกันดีว่า อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยและความแก่ชรา การบริโภคงาที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูงนั้น จึงเป็นการช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคแห่งความเสื่อม ต้านและชะลอวัย จึงส่งผลให้ผู้ที่บริโภคงาเป็นประจำมีเส้นผมที่แข็งแรง แม้จะมีอายุที่มากแล้วก็ตาม
แม้งานวิจัยจะไม่ได้ระบุถึงชนิดของงา ว่างาที่ใช้ทดลองเป็นสีอะไร ? แต่จากงานวิจัยอื่นๆก็แสดงให้เห็นว่างาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่างาขาวหรืองาสีอื่นโดยเฉลี่ยถึง 3 เท่าครับ!
ผลของการใช้งาดำในการแก้ปัญหาเส้นผม
“สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่าทำดู” เนื่องด้วยสรรพคุณของงาดำต่อการดูแลเส้นผมมีมากมาย ผู้เขียนจึงอยากพิสูจน์ทราบว่า สิ่งที่บรรพบุรุษหรือคนโบราณเค้าสอนต่อๆกันมา งานวิจัยที่เค้าให้ข้อมูลต่างๆนั้นเป็นจริงหรือไม่ ? สิ่งที่จะช่วยยืนยันประสิทธิภาพของงาดำกับการแก้ปัญหาผมได้ดีที่สุด คือ การทดลองใช้งาดำกับคนใกล้ชิดที่มีอายุค่อนข้างมากแล้ว (ผู้เขียนไม่มีปัญหาผมและมีผมร่วงบ้างเป็นปกติแต่ไม่มีผมหงอก เพราะอายุยังไม่เยอะ เลยต้องทดลองกับคุณแม่แทน)
ผู้ทดลองคือ คุณแม่ของผู้เขียนเอง อายุ 64 ปี มีปัญหาผมร่วงและผมหงอกค่อนข้างมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของผู้สูงอายุครับ
ผู้เขียนให้ท่านทานน้ำมันงาดำสกัดเย็นชนิดแคปซูล ขนาด 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2-4 แคปซูล เพื่อเสริมสร้างมวลกระดูกและต้านโรคกระดูกพรุน ท่านทานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือนโดยที่ไม่เคยสังเกตผมของตัวเองเลยว่ามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร ?
มีอยู่วันหนึ่งที่ท่านออกไปงานสัมมนากับเพื่อนรุ่นน้อง และได้พักที่ห้องเดียวกัน หลังจากนอนพักค้างแรมเป็นเวลาหนึ่งคืน เพื่อนรุ่นน้องทักคุณแม่ว่า “ทำไมผมพี่ไม่ค่อยร่วงเหมือนแต่ก่อน ปกติจะเห็นผมร่วงบนหมอนหลังตื่นนอนค่อนข้างมาก ?” คุณแม่ได้ฟังดังนั้นก็เลยลองกลับมาสังเกตตัวเองที่บ้านเวลาสระผม ซึ่งเป็นเวลาที่ผมจะร่วงมากที่สุด ก็ทราบได้ด้วยตนเองว่า ผมร่วงตอนสระน้อยลงจริงๆและผมหงอกก็มีน้อยลงด้วย
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องที่ผู้เขียนฟังมาจากคุณแม่ ผู้เขียนจึงได้ข้อสรุปว่า “น้ำมันงาดำสกัดเย็นมันดีกับเส้นผมจริงๆ”
ไม่ต้องเชื่อผู้เขียนก็ได้ครับ แต่ถ้าสงสัยใคร่รู้ว่าน้ำมันงาดำดีต่อเส้นผมจริงหรือไม่ ? ลองพิสูจน์ได้ด้วยตนเองจะเห็นเองรู้เองและสรุปได้เองครับ
สรุป
งาดำมีประโยชน์ต่อเส้นผมทั้งในแง่ของการบำรุงผมและการแก้ปัญหาผมในทุกมิติ เพราะมีสารพฤกษเคมีที่มีประสิทธิภาพสูงมากในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยและความแก่ชรา จากผลการทดลองใช้น้ำมันงาดำสกัดเย็นข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาดำในการบำรุงสุขภาพที่บันทึกในตำราการแพทย์ทางเลือกทั้งแผนจีนและอินเดียน่าจะเป็นความจริง การบริโภคงาดำทำได้สองวิธี คือ ใช้กินและใช้ทาภายนอก ผู้เขียนแนะนำให้กินเป็นหลักใช้ภายนอกเป็นรอง เพราะคนเราจะสุขภาพดีได้ต้องดีจากภายในสู่ภายนอก ซึ่งเป็นหลักธรรมชาติบำบัดที่ใช้ได้ผลมาอย่างยาวนานหลายพันปีครับ
อ้างอิง
Value addition in sesame: A perspective on bioactive components for enhancing utility and profitability 2014 Jul-Dec; 8(16): 147–155. [PMC free Article]