น้ำมันงาดำสกัดเย็น 1,000 มิลลิกรัม ยูอาร์ (UR) มีสารเซซามีน แก้ปวดข้อปวดเข่า แก้ความดันโลหิตสูง บำรุงเส้นผม ลดผมร่วง ผมหงอก ดูแลตับไต และช่วยลดปัญหากระดูกพรุน แถมฟรี อาหารเสริมชนิดแคปซูล!

น้ำมันงาดำสกัดเย็น 1,000 มิลลิกรัม ยูอาร์ (UR) มีสารเซซามีน แก้ปวดข้อปวดเข่า แก้ความดันโลหิตสูง บำรุงเส้นผม ลดผมร่วง ผมหงอก ดูแลตับไต และช่วยลดปัญหากระดูกพรุน แถมฟรี อาหารเสริมชนิดแคปซูล!
ราคา 1,000 – 1,190 บาท ต่อกระปุก
- 1 ชิ้น ราคา 1,190 บาท ส่งด่วนฟรี
- 2 ชิ้น ราคา 2,000 บาท ส่งด่วนฟรี
- 3 ชิ้น ราคา 3,000 บาท ส่งด่วนฟรี




รีวิวจากผู้ใช้จริง
เคยปวดเข่าเรื้อรังจนทนไม่ไหว ก็หาวิธีการรักษาตัวเองมาตลอด จนได้มาทานน้ำมันงาดำอย่างต่อเนื่อง อาการปวดเข่าที่เคยมีก็เริ่มดีขึ้น เดินได้ไกลมากขึ้น
มีปัญหาเวลาเดินแล้วข้อต่อสีกันจะได้ยินเสียง ทำให้ฉันมีความกังวลใจมาก หลังจากที่หาวิธีการบรรเทาอาการอยู่นานก็ได้พบกับน้ำมันงาดำสกัดเย็น หลังจากที่ได้รับประทานแล้วเสียงข้อที่เคยดังก็หายไป ตอนนี้นอกจากจะทานเองแล้วยังแนะนำให้เพื่อนทานด้วยค่ะ
เป็นคนที่ค่อนข้างมีความเครียดและคิดมาก ส่งผลให้นอนหลับยากมาหลายปี เพียงได้ทานน้ำมันงาดำสกัดเย็นก็ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น หลับลึกหลับสนิท ตื่นมาสดชื่นมีแรงทำงานได้ดีตลอดทั้งวัน
9 สุดยอดคุณประโยชน์ของงาดำ
- งาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ที่มีส่วนช่วยในการป้องกัน บำบัดโรคกระดูกพรุนและข้อเสื่อม
- งาดำมีประสิทธิภาพดีในการลดปวดข้อดีกว่ายาแก้ปวด ซึ่งการทานงาดำไม่มีผลข้างเคียงเหมือนการใช้ยา
- งาดำน้ำหนักเท่ากับนมวัวมีแคลเซียมสูงกว่า 8 เท่า ซึ่งแคลเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญสำหรับกระดูก
- งาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระเฉพาะที่ช่วยในการต้านโรคข้อเสื่อม และช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนในข้อต่อ
- งาดำเป็นอาหารบำรุงไตชั้นดี ตามหลักการแพทย์จีนที่ไตที่แข็งแรงจะส่งผลให้กระดูกและข้อแข็งแรงตามไปด้วย
- งาดำช่วยควบคุมความดันให้เป็นปกติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
- งาดำช่วยบำรุงสุขภาพเส้นผม แก้ผมร่วง ผมหงอกและปัญหาเส้นผมได้ดี
- งาดำช่วยลดไขมันชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอร์ไรด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดและหัวใจ
- การบริโภคน้ำมันงาดำทดแทนน้ำมันชนิดอื่นช่วยในการลดน้ำหนักแบบธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
งาดำอุดมไปด้วยสารสำคัญในการบำรุงกระดูก
- แคลเซียม แร่ธาตุสำคัญสำหรับกระดูก ช่วยในการพัฒนา ซ่อมแซมและสร้างความแข็งแรงของกระดูก
- โปรตีน ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้และเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูก
- ไขมัน ช่วยในกระบวนการนำไปใช้ของแคลเซียมและเป็นส่วนประกอบจำเป็นของเยื่อหุ้มเซลล์ทุกชนิดรวมถึงกระดูกอ่อนและกระดูก
- ทองแดง ช่วยในการสร้างคอลลาเจนสำหรับกระดูกและเนื้อเยื่อประสาน
- ฟอสฟอรัส รวมตัวกับแคลเซียมเพื่อสร้างโครงสร้างและสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน
- สังกะสี ใช้ในกระบวนการผลิตโครงข่ายคอลลาเจน และจำเป็นในกระบวนการซ่อมแซมกระดูก
- แมงกานีส เป็นสารที่ทำงานร่วมกับเอนไซม์ เพื่อการสร้างกระดูกอ่อนและคอลลาเจนสำหรับกระดูก
- โพแทสเซียม ช่วยปรับสมดุลกรดด่างในร่างกาย เพื่อป้องกันการสูญเสียมวลกระดูกจากสภาวะร่างกายเป็นกรดมากไป
- แมกนีเซียม ช่วยในการดูดซึมและการนำไปใช้ของแคลเซียม เพื่อรับประกันความแข็งแรง ทนทานของกระดูกและฟัน
- วิตามินเอ ทำหน้าที่สำคัญในการพัฒนาเซลล์สร้างกระดูกหรือ Osteoblasts
- วิตามินบี 6 มีประโยชน์ทางอ้อมต่อกระดูก โดยเป็นสารจำเป็นในการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่น กระเพาะอาหาร ต่อมหมวกไต ซึ่งมีความสัมพันธ์กับกระดูกทางอ้อม
- วิตามินบี 9 กำจัดพิษของกรดอะมิโนบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบและการเพิ่มความเสี่ยงภาวะกระดูกแตกหัก

งาดำช่วยควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ
ความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่งที่ผู้ป่วยมีความดันเลือดในหลอดเลือดแดงสูงกว่าปกติตลอดเวลา ซึ่งเป็นอันตรายต่อหลอดเลือดของผู้ป่วย หากไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติได้ เพราะทำให้หลอดเลือดอ่อนแอ แข็งขาดความยืดหยุ่น ตีบตันและอาจถึงขั้นแตกหรือฉีกขาดได้
หลอดเลือดที่อ่อนแอลงจากสาเหตุของความดันโลหิตสูงนำไปสู่โรคชนิดต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและโรคไตเรื้อรัง เป็นต้น
งาหรือน้ำมันงามีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะสารพฤกษเคมีที่มีอยู่ในงาดำมีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก เช่น
- ลิกแนน (Lignans) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากในน้ำมันงาโดยเฉพาะงาดำที่มีมากกว่างาสีอื่น
- โทโคฟีรอลหรือวิตามินอี (Tocopherols) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีมากในงาและมีมากกว่าในน้ำมันงา
- ไฟโตสเตอรอล (Phytosterols)
สารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกัน บำบัดและรักษาโรคแห่งความเสื่อม (Degenerative Diseases) เช่น เบาหวาน กระดูกพรุน ข้อเสื่อม อัลไซเมอร์ มะเร็ง โรคหัวใจ และอีกหลายๆโรครวมถึงโรคความดันโลหิตสูง
งาดำช่วยลดไขมันชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ทดลองให้กลุ่มตัวอย่างใช้น้ำมันงาบริโภคเป็นอาหารอย่างต่อเนื่อง แล้วพบว่าการบริโภคน้ำมันงานอกจากจะช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญแล้ว ยังช่วยลดปริมาณไขมันชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) ในเลือด ซึ่งเป็นส่วนประกอบของไขมันที่เกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดชนิดต่างๆ
การเลือกบริโภคน้ำมันงาจึงเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพหลอดเลือดและมีส่วนช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ประโยชน์ของงาดำมีผลการทดลองและงานวิจัยรองรับ

1. ประโยชน์ของงาดำในการระงับอาการปวดข้อ
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยทาบริซ (Tabriz University of Medical Sciences) ได้ทำการวิจัยและทดลองใช้งาเพื่อลดความเจ็บปวดในผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarhtritis) จำนวน 50 คน โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 25 คนคนไข้ข้อเข่าเสื่อมกลุ่มแรก จะได้รับประทานงาวันละ 40 กรัม
คนไข้ข้อเข่าเสื่อมกลุ่มที่สอง จะได้รับยาไทลินอล (ยาแก้ปวด) ครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
ผ่านไปสองเดือน ผลที่ได้ คือ กลุ่มที่บริโภคงาสามารถลดความเจ็บปวดจากโรคเข่าเสื่อมได้มากกว่ากลุ่มที่รับยาไทลินอลอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีข้อมูลดังต่อไปนี้
ค่าความเจ็บปวดของกลุ่มที่รับประทานงาลดลงจาก 9 ⇒ 3.5 (ค่าลดลง 5.5)
ค่าความเจ็บปวดของกลุ่มที่ใช้ยาไทลินอลลดลงจาก 9 ⇒ 7 (ค่าลดลง 2)
การทดลองนี้จึงสรุปได้ว่าการบริโภคงาเพื่อลดความเจ็บปวดจากโรคข้อเสื่อมมีประสิทธิภาพมากกว่าการทานยาไทลินอล โดยที่การบริโภคงาไม่มีผลข้างเคียงเหมือนการใช้ยาไทลินอลด้วย
อ้างอิงงานวิจัย
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24164846
2. ประโยชน์ของงาดำที่มีต่อโรคข้อเสื่อม
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ChiangMai University)จากการทดลองกับกระดูกอ่อนของหมูในจานทดลอง พบว่าสารเซซามินมีฤทธิ์ในการยังยั้งสารทำลายกระดูกอ่อนอย่างมีนัยสำคัญ
จากการทดลองกับหนูที่เป็นโรคข้อเสื่อม พบว่าสารเซซามินมีฤทธิ์ในการย้อนกลับกระบวนการหรือรักษากระดูกอ่อน โดยการลดจำนวนเซลลล์กระดูกอ่อนที่ไม่เป็นระเบียบ เพิ่มความหนาของกระดูกอ่อน ลดการสูญเสียคอลลาเจน (Collagen) และโปรทีโอไกลแคน (Proteoglycans = PGs) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกอ่อน อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนและโปรทีโอไกลแคนในเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนอีกด้วย
จากการทดลองโดยใช้เซลล์กระดูกอ่อนของคนพบว่า เซซามินมีความสามารถในการกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนในคน โดยการกระตุ้นยีนบางชนิดเพื่อเพิ่มปริมาณเอ็นไซม์ที่ใช้ในการสร้างกระดูกอ่อน
ผลจากงานวิจัยทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า สารเซซามินในงาดำ มีศักยภาพที่จะนำไปพัฒนาเพื่อการรักษาโรคข้อเสื่อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิงงานวิจัย
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22704650
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24338203
3. ประโยชน์ของงาดำที่มีต่อโรคกระดูกพรุน
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ChiangMai University)
จากการทดลองกับเซลล์สร้างกระดูก (Osteoblasts) ของมนุษย์ด้วยสารเซซามินที่สกัดจากงาดำพบว่า สารเซซามินมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์สร้างกระดูก (Osteoblasts) และมีความเป็นไปได้ว่า สารเซซามินมีผลทางอ้อมในการควบคุมการพัฒนาของเซลล์สลายกระดูก (Osteoclasts)
จากผลการทดลอง จึงสรุปได้ว่า สารเซซามินในงาดำอาจนำไปพัฒนาเป็นอาหารเสริมสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคกระดูกพรุนได้
อ้างอิงงานวิจัย
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22646286
4. ประโยชน์ของงาดำต่อโรคความดันโลหิตสูง
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล (Yale University)
ได้ทดลองใช้น้ำมันงากับกลุ่มตัวอย่าง 50 คน อายุอยู่ในช่วง 35-60 ปี ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูงและทานยาลดความดันอยู่ โดยให้กลุ่มตัวอย่างทานยาลดความดันโลหิตสูงตามปกติและกินน้ำมันงาทดแทนน้ำมันชนิดอื่นที่เคยใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อทดสอบว่าน้ำมันงามีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิตได้หรือไม่ ?
จากผลการทดลอง จึงสรุปได้ว่า การบริโภคน้ำมันงาอย่างต่อเนื่องมีส่วนช่วยในการควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
อ้างอิงงานวิจัย
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22646286
5. ประโยชน์ของงาดำต่อการลดไขมันชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยซาฮิดซาดูจี (Shahid Sadoughi Medical University)
ได้ทำการศึกษาผลของน้ำมันมะกอกกับน้ำมันงาในกลุ่มคนไข้ทีมีปัญหาไขมันในเลือดสูง เพื่อวัดประสิทธิภาพในการควบคุมระดับไขมันในร่างกายของน้ำมันแต่ละชนิดและทำการเปรียบเทียบว่าน้ำมันชนิดใดมีประสิทธิภาพมากกว่า
จากผลการทดลอง จึงสรุปได้ว่า การบริโภคน้ำมันงาอย่างต่อเนื่องมีส่วนช่วยในการลดไขมันชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์ได้อย่างมีนัยสำคัญและมีประสิทธิภาพดีกว่าน้ำมันมะกอก
อ้างอิงงานวิจัย
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22646286
ประโยชน์ทางอ้อมของงาดำในการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
- บำรุงและขับพิษในตับและไต
- ลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน
- บำรุงสมอง
- แก้โรคปวดหัวเรื้อรังหรือไมเกรน
- ลดอาการภูมิแพ้
- เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- เสริมแรงและแก้อ่อนล้า
- ลดความเครียดและอาการซึมเศร้า
- ช่วยในการนอนหลับ
- ขับของเสียในระบบทางเดินอาหาร
- ใช้กลั้วปากเพื่อให้ช่องปากสะอาด
- บำรุงผิวหนังและเส้นผม เหมาะสำหรับผู้มีอาการผมร่วง
มนุษย์รู้จักการใช้งาดำในการดูแลสุขภาพเมื่อหลายพันปีมาแล้ว
- งาดำและงาสีอื่นๆจัดได้ว่าเป็นพืชประวัติศาสตร์ กล่าวคือ มีการพูดถึงและมีข้อมูลในบันทึกทางประวัติศาสตร์โบราณในประเทศต่างๆหลายประเทศ
- จากหลักฐานทางโบราณคดีพบซากไหม้ของงา และถูกประเมินว่ามีอายุกว่า 3,000 – 3,050 ปี ก่อนคริสตกาล
- มีการกล่าวอ้างว่ามีการซื้อขายงาระหว่างอาณาจักรเมโสโปเตเมียกับอินเดียตั้งแต่ 2,000 ปี ก่อนคริสตกาล
- บางรายงานกล่าวอ้างว่า มีการปลูกงาในประเทศอียิปต์ในสมัย Ptolemiac 305 ปีก่อนคริสตกาล
- บันทึกของชาวบาลิโลนและอัสซีเรียน มีการพูดถึงงาตั้งแต่เมื่อ 4,000 ปีที่แล้ว
- งาเป็นยาชนิดหนึ่งในตำรายาสมุนไพรรักษาโรคของชาวอียิปต์ ซึ่งเป็นตำราที่มีอายุมานานกว่า 3,600 ปี
- รายงานทางโบราณคดีกล่าวว่า ชาวตุรกีรู้จักการปลูกงาและรู้จักการสกัดเอาน้ำมันงามาใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ 2,750 ปีที่แล้ว
การใช้งาของคนโบราณนอกจากจะใช้ในแง่มุมของการบริโภคเป็นอาหารแล้ว ด้วยคุณสมบัติทางยาที่มีอยู่ในงาส่งผลให้งาถูกนำไปใช้ปรุงเป็นยารักษาโรค ดังจะเห็นได้จากการแพทย์แผนโบราณหลายแผน มีการนำงาไปใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น การแพทย์แผนอียิปต์ การแพทย์แผนอินเดีย และการแพทย์แผนจีน เป็นต้น เพื่อภาพที่ชัดเจนขั้น เราขอยกตัวอย่างให้ท่านผู้อ่านได้ทราบถึง การนำงาไปใช้สำหรับการแพทย์แผนอินเดียและการแพทย์แผนจีนเพิ่มเติม

แพทย์แผนอินเดีย
การแพทย์แผนอินเดียจะเรียกว่า การแพทย์อายุรเวท (Ayurveda) การใช้น้ำมันงาของแพทย์อายุรเวทหรือแม้แต่คนอินเดียโดยทั่วไป เป็นไปอย่างแพร่หลายและลึกซึ้งอยู่ในวัฒนธรรมของคนอินเดียมายาวนาน
แพทย์หรือคนอินเดียใช้น้ำมันงาดำหรืองาสีอื่นในการปรุงตำรับยาสมุนไพร เกือบทุกชนิดมีส่วนผสมของน้ำมันงา ใช้น้ำมันงาในการประกอบอาหาร ใช้ในการกลั้วปากเพื่อให้ฟันขาวสะอาดและแข็งแรง และที่โดดเด่นที่สุดก็เห็นจะเป็นการใช้น้ำมันงาในการชโลมและนวดทั่วร่างกายตั้งแต่ปลายผมจรดปลายเท้า เพราะองค์ความรู้โบราณของอินเดียมีการสอนไว้ว่า การชโลมและนวดร่างกายด้วยน้ำมันงามีผลทำให้สุขภาพดีมีร่างกายแข็งแรง
การนวดด้วยน้ำมันงาจะต้องใช้ความร้อนเข้าช่วย กล่าวคือ คนอินเดียอาจจะทาน้ำมันงาไว้ทั่วตัว แล้วเข้าไปในที่ร้อนๆหรือแช่น้ำร้อนเพื่อให้ความร้อนขยายรูขุมขนและดูดซึมน้ำมันเข้าสู่ร่างกายได้ดี หรืออุ่นน้ำมันงาดำให้ร้อนในระดับหนึ่งแล้วใช้นวดไปทั่วร่างกายก็ได้
การใช้น้ำมันงาดำชโลมหรือนวดไปทั่วร่างกายจะส่งผลดดีให้กับเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย โดยมีความเชื่อว่าร่างกายจะได้รับประโยชน์ตั้งแต่ผิวหนัง กล้ามเนื้อ อวัยวะภายในจนถึงกระดูกและไขข้อ ดังนั้น แม้แต่ในเด็กเล็กอายุ 2-3 ปี คนอินเดียเค้าก็ใช้น้ำมันงานวดตัวให้เป็นประจำ ความเชื่อของคนอินเดียเกี่ยวกับประโยชน์ของน้ำมันงาน่าจะเป็นจริง เพราะตัวของน้ำมันงาเองมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด รวมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูงมากๆโดยเฉพาะในงาดำ รวมทั้งงานวิจัยในยุคปัจจุบันเริ่มมีข้อมูลที่มีความเชื่อมโยงกับประโยชน์หลายๆอย่างของน้ำมันงาที่มาจากความเชื่อและตำราแพทย์อายุรเวทอีกด้วย

แพทย์แผนจีน
สำหรับแพทย์แผนจีน งาดำเป็นยาที่ใช้บำรุงตับและไต มีสรรพคุณในการบำรุงเลือด เพิ่มสารแห่งชีวิตหรือจิง (Jing) และเพิ่มหยินในร่างกาย แก้ปราณตับและไตพร่อง
เนื่องจากไตเป็นอวัยวะพื้นฐานและเป็นแหล่งสร้างสารแห่งชีวิต (สารจิง = Jing) จึงเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่สร้างสารแห่งความหนุ่มสาว ซึ่งลักษณะของความหนุ่มสาวของคนเราจะดูได้จากกระดูก ไขข้อและฟันที่แข็งแรง ผิวหนังที่ละเอียดและเต่งตึง ผมดกดำและไม่หงอกหรือร่วงมากนัก แพทย์จีนจึงแนะนำให้คนทั่วไปบริโภคงาดำเพื่อสร้างความอ่อนเยาว์ ต้านความแก่ บำรุงกระดูก ไขข้อ แก้ผมหงอกและผมร่วง
จากข้อมูลทั้งหมดจึงอาจกล่าวได้ว่า “งาดำเป็นอาหารที่มีฤทธิ์ทางยาสำหรับผู้ที่มีปัญหากระดูกพรุน ข้อเสื่อม ข้ออักเสบ ปวดข้อ ปวดเข่า ความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง รวมทั้งมีประโยชน์ทางอ้อมต่อร่างกายอย่างมากมาย”
ทำไมต้องทานงาดำในรูปน้ำมันสกัดเย็นแบบแคปซูล ?

- การสกัดน้ำมันงาดำโดยวิธีการสกัดเย็น (Cold Pressed) ไม่ผ่านความร้อน จึงไม่สูญเสียคุณค่าทางอาหาร
- น้ำมันงาดำบรรจุอยู่ในแคปซูลเจล ป้องการสัมผัสกับอากาศและความชื้น คุณภาพของน้ำมันงาจึงดีอยู่เสมอ
- น้ำมันงาดำขนาด 1,000 มิลลิกรัม มีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงกับงาดำปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะหรือ 45 กรัม
- ไม่ต้องบดงาดำเองให้ยุ่งยากและเสียเวลา
ไม่ต้องเป็นห่วงเชื้อราที่เกิดขึ้นในเนื้อของงาดำบดหากเก็บรักษาไม่ดี - ไม่ต้องทานงาดำบดในปริมาณ 50 – 100 กรัม ต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณค่อนข้างมากและเป็นไปได้ยากที่จะทานได้ขนาดนี้
- น้ำมันงาดำชนิดบรรจุขวด หากเปิดปิดบ่อยๆเข้า น้ำมันจะสัมผัสกับอากาศมากเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ทำให้เหม็นหืนและคุณภาพของน้ำมันงาลดลง
- น้ำมันงาดำสกัดเย็นแคปซูล น้ำหนักเบา พกพาง่าย สะดวกต่อการบริโภค
น้ำมันงาดำสกัดเย็นเหมาะสำหรับใครบ้าง ?
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื่องข้อ
ผู้ที่มีปัญหากระดูกบาง
ผู้ที่มีปัญหาไขมันโดยรวมในเลือดสูง
ผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง
ผู้ที่มีปัญหาเรื่องเส้นผม
นักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
หลากหลายผลลัพธ์ที่น่าพอใจจากผู้ใช้น้ำมันงาดำสกัดเย็น





ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอ

สาเหตุของโรคกระดูกและข้อ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ส่วนมากสาเหตุเกิดจากความเสื่อม ซึ่งมีลักษณะค่อยๆสะสมความเสียหายไปเรื่อยๆในระยะยาว จนสุดท้าย หากความเสื่อมมีระดับที่มากพอก็จะทำให้เกิดโรคชนิดต่างๆตั้งแต่กระดูกพรุน ข้อเสื่อม หลอดเลือดแข็ง ตัน ตีบหรือแตก และส่งผลกระทบถึงการใช้ชีวิตประจำวันได้
ดังนั้น แม้เราจะยังไม่ป่วยคำว่ากันไว้ดีกว่าแก้ยังเป็นคำที่ใช้ได้ดีสำหรับการดูแลสุขภาพเสมอ
การบริโภคน้ำมันงาดำสกัดเย็นในรูปแคปซูลที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เป็นทางเลือกที่ดีมากที่สุดทางหนึ่งในการช่วยชะลอโรคที่เกิดจากความเสื่อม หรือแม้แต่ผู้ที่มีปัญหาโรคกระดูกพรุนหรือข้อเสื่อมอยู่ก่อนแล้ว การบริโภคน้ำมันงาดำสกัดเย็นย่อมมีส่วนช่วยให้อาการปวดและอักเสบที่เป็นอยู่ลดลง เดินได้ ขยับได้และเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ซึ่งหมายถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับงาดำที่มีหลักฐานมากขึ้นเรื่อยๆ
ในส่วนของผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตและไขมันในเลือดสูง การบริโภคน้ำมันงาดำสกัดเย็น มีส่วนช่วยในการลดและควบคุมความดันและระดับไขมันให้อยู่ในระดับปกติได้ ซึ่งเป็นการป้องกันโรคที่เกิดจากหลอดเลือดเสื่อมสภาพ ที่หากเกิดขึ้นแล้วอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน
ดูแลสุขภาพด้วยน้ำมันงาดำสกัดเย็นตั้งแต่ตอนนี้!
น้ำมันงาดำสกัดเย็น
1 กระปุก 100 แคปซูล- ส่วนลด 0%
- จัดส่งด่วนฟรี
- แถมฟรี ขมิ้นชัน ยาคอส หรือฟ้าทะลายโจร
- ยาคอส 1 กล่อง ขนาด 30 แคปซูล
- ขมิ้นชัน 1 กล่อง ขนาด 30 แคปซูล
- ฟ้าทะลายโจร 1 กล่อง ขนาด 30 แคปซูล
- เลือกของแถมได้อย่างใดอย่างหนึ่ง
น้ำมันงาดำสกัดเย็น
2 กระปุก 200 แคปซูล- ส่วนลด 16%
- จัดส่งด่วนฟรี
- แถมฟรี เห็ดหลินจือ ขมิ้นชัน ยาคอส ขมิ้นชันหรือฟ้าทะลายโจร
- เลือกของแถมได้อย่างใดอย่างหนึ่ง
- เห็ดหลืนจือ 1 กล่องขนาด 30 แคปซูล
- ยาคอส 2 กล่อง ขนาด 60 แคปซูล
- ขมิ้นชัน 1 ขวด ขนาด 100 แคปซูล
- ฟ้าทะลายโจร 1 ขวด ขนาด 100 แคปซูล
น้ำมันงาดำสกัดเย็น
3 กระปุก 300 แคปซูล- ส่วนลด 16%
- จัดส่งด่วนฟรี
- แถมฟรี เห็ดหลินจือ ขมิ้นชัน ยาคอส ขมิ้นชันและฟ้าทะลายโจร
- เลือกของแถมได้ 2 อย่างหรืออย่างเดียว 2 ชุด
- เห็ดหลืนจือ 1 กล่องขนาด 30 แคปซูล
- ยาคอส 2 กล่อง ขนาด 60 แคปซูล
- ขมิ้นชัน 1 ขวด ขนาด 100 แคปซูล
- ฟ้าทะลายโจร 1 ขวด ขนาด 100 แคปซูล